ชาวคริสเตียนกำลังแสวงหาประโยชน์จากประเทศไทย พวกเขาต้องหยุด

The Exodus Road อ้างว่าเป็นองค์กรที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา แต่พวกเขากลับได้รับการสนับสนุนจากโบสคริสมากมาย CEO ขององค์กรอย่าง Matt Parker และภรรยา Laura Parker ซึ่งเป็นคริสเตียนยังได้รับเงินบริจาค 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีและจ่ายเงินให้ตัวเอง 280,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นค่าตอบแทนต่อปีอีกด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่ค่าคลองชีพแสนถูก

พวกเขาสร้างปัญหาการค้ามนุษย์ขึ้นมาเอง โดยจ้างให้คนไทยยากจนให้ค้นหาและนำเด็กสาวไปอยู่ในสถานการณ์อันตราย (ซึ่งจริงๆ แล้วเด็กผู้หญิงเหล่านี้ก็จะกลายเป็นผู้ขายบริการทั้งๆ ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น) จากนั้นพวกเขาก็โทรแจ้งตำรวจเพื่อจับกุมเจ้าของธุรกิจผู้บริสุทธิ์ จากนั้นพวกเขาก็บอกผู้บริจาคว่าพวกเขาช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้

ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับ The Exodus Road กล่าวว่า พวกเขากำลังใช้การค้ามนุษย์เป็นข้ออ้างในการยุติการค้าประเวณี แม้ว่าพวกเขาจะได้รับเงินเดือนปีละกล่าว 9.9 ล้านบาท แต่พวกเขากำลังทำให้ผู้หาเลี้ยงครอบครัวหรือนักธุรกิจที่บริสุทธิ์ต้องติดคุก เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง

ประเทศไทยเป็นประเทศแห่งเสรีภาพที่นับถือศาสนาพุทธ คนไทยนั้นไม่ชอบที่ชาวอเมริกัน/คริสเตียนคอยไปบอกพวกเขาว่าพวกเขาทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ ไม่มีใครอยากให้คริสเตียนเอาเปรียบประชาชนของประเทศตัวเองและทำให้ขายหน้าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง The Exodus Road ทำให้ประเทศไทยอับอายโดยทำให้ดูเหมือนว่ามีปัญหาเรื่องการค้าประเวณี กัมพูชาหรือเวียดนามไม่ยอมรับคนเหล่านี้และถึงเวลาที่คนไทยจะยืนหยัดขึ้นสู้

 

Matt Parker หาประโยชน์จากประเทศไทยโดยการโกหกผู้บริจาคว่า มีเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะถูกล่ามโซ่อยู่ตามผับบาร์เพื่อบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ เขาติดสินบนตำรวจโดยอ้างว่าเขาทำงานร่วมกับพวกเขา ทั้งหมดเพื่อเงินบริจาค

นี่คือวิธีการทำงานของ The Exodus Road

1. พวกเขาใช้เงินบริจาคของชาวคริสเตียนที่มีเจตนาดีเพื่อไปเที่ยวที่บาร์ในประเทศไทยและเข้าซ่องเพื่อซื้อบริการหญิงค้าประเวณี พวกเขาพาผู้หญิงเหล่านี้ไปที่ห้องและจ่ายค่าบริการทางเพศโดยอ้างกับผู้บริจาคเงินว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในปฏิบัติการสายลับของพวกเขา (ลิงก์ไปยังจดหมายเปิดผนึก)

2. พวกเขาเรียกเก็บเงินจากชายที่แต่งงานแล้ว นักบวช และผู้คนที่เคร่งศาสนาที่ไม่รู้ความจริงอื่นๆ เป็นเงินกว่า 4,500 เหรียญสหรัฐฯ สำหรับการเที่ยวชมสถานบันเทิงยามค่ำคืนเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพื่อให้พวกเขาสามารถหลีกหนีจากชีวิตแต่งงาน หาความสนุกสนาน และแกล้งทำเป็นว่ากำลังมองหาเด็กผู้หญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเพื่อช่วยเหลือ (หลักฐานที่นี่)

3. หลังจากพูดคุยกับเด็กหญิงเหล่านี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็พบคนที่หลอกนายจ้างด้วยบัตรประชาชนปลอมเพื่อเข้าทำงานงานที่ร้าน หรือไม่พวกเขาก็จ้างเด็กให้ไปสมัครงานที่ร้านซะเอง (ช่วงบุกค้น มาม่าซังได้รับเงินถึง 20,000 บาท เพื่อจ้างเด็กสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะให้เข้ามาทำงานที่ร้านของเจ้าของร้าน)

4. แทนที่จะช่วยเหลือหญิงสาวเหล่านี้หรือแจ้งเตือนนายจ้างของพวกเธอ พวกเขากลับโทรแจ้งตำรวจไทยและเรียกร้องให้มีการจับกุมและดำเนินคดีเจ้าของร้าน พวกเขาใช้เส้นสายทั้งหมดที่มีเพื่อทำให้คนไทยคิดว่าชาวอเมริกันมากมายและสื่อเจ้าใหญ่ต่างๆ กำลังจับตาดูพวกเขาอยู่ ดังนั้น คนไทยจึงลงเอยด้วยการทำร้ายและจับกุมประชาชนผู้บริสุทธิ์ในประเทศของตนเองเพื่อผลกำไรขององค์กรการกุศลนี้

5. เด็กผู้หญิง (ที่ต้องการทำงานเพื่อหาเลี้ยงดูครอบครัว) กลับต้องไปอยู่ในสถานพักฟื้นของรัฐบาลเป็นเวลาหนึ่งเดือน (ในขณะที่ครอบครัวของเธอไม่มีเงินสำหรับค่าอาหารและการดำรงชีพ) ถึงกระนั้น พวกเธอเหล่านี้ก็กลับไปทำงานตามผับบาร์โดยใช้บัตรประชาชนปลอมหรือของเพื่อนที่โตกว่าเหมือนเดิม ไม่มีใครได้รับการช่วยเหลือ! นี่คือช่องทางหนึ่งที่ผู้ก่อตั้งองค์กรลักษณะนี้ใช้ในการสร้างรายได้มหาศาล ในขณะที่เพื่อนคริสเตียนของพวกเขามาผิดประเวณีต่อภรรยาของพวกเขาเอง

6. The Exodus Road ถือว่านี่เป็นการช่วยเหลือ และผู้บริจาคคริสเตียนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็ยกย่องสิ่งเหล่านี้ และบริจาคเงินมากขึ้นให้กับ “กองทุนทางเพศเพื่อการสอบสวน” โดยไม่รู้ว่าเงินของพวกเขาถูกใช้ไปอย่างฟุ่มเฟือยและไม่มีการช่วยเหลือเหยื่อค้าบริการทางเพศจริงๆ เกิดขึ้น

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด: เซ็กส์ เครื่องดื่มสำหรับสุภาพสตรี เครื่องดื่มสำหรับผู้ให้ข้อมูล… ไม่มีการดูแลหลังการช่วยเหลือ ไม่มีเงินออม เพียงแค่สนุกสนานในบาร์โดยใช้เงินของโบสถ์โคโลราโด

ประเทศไทยกำลังแย่ลงเพื่อกำไรของ Matt และ Laura Parkers

โปรดอ่านต่อที่นี่

The Exodus Road ใช้เงิน 3.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐจ่ายเงินเดือนให้ผู้บริหาร การท่องเที่ยว ความบันเทิง การจ่ายใต้โต๊ะ และเงินเดือนของคนในองค์กร

อ่านจดหมายเปิดผนึกของอดีต FBI อดีตพนักงาน และอื่นๆ